
ฝังรากเทียม ด้วยเทคนิคแยกและขยายสันกระดูก (Ridge-Splitting)

หมอได้มีโอกาสปักรากเทียมด้วยเทคนิคนี้มายหลายครั้งแล้วนะครับ แต่ก็ยังถือว่าไม่บ่อยนักเมื่อเทียบกับการฝังแบบปกติ เลยถือโอกาสมาเขียน Blog เก็บไว้
เคสนี้คนไข้อายุ 60ปี มีการถอนฟันกรามด้านล่างขวาออกไปนานแล้ว 3 ซี่ และต้องการเข้ามาทำรากเทียมทดแทนทั้ง 3 ซี่ที่หายไป

ซึ่งปกติแล้วการปักรากเทียมจะประกอบด้วย 2 ขั้นตอน คือ
1. ผ่าตัดฝังตัวรากเทียม (หรือที่เราเห็นรูปร่างเหมือนสกรู ทำมาจากไทเทเนียม) ลงไปบนสันกระดูกของคนไข้
2. เสร็จแล้วก็เอาฟันปลอมที่เตรียมมาครอบลงไปบนสกรูอีกทีครับ
เคสนี้ปัญหาอยู่ที่ขั้นตอนแรก 🥺 เนื่องจากคนไข้ถอนฟันมานานมากแล้ว สันกระดูกเลยยุบตัว (เหลือเป็นสันแหลมๆ) ทำให้ตัวพื้นที่กระดูกที่จะฝังไม่หนาพอที่จะฝังรากเทียมลงไปด้วยเทคนิคปกติได้
ปกติแล้วถ้าสันกระดูกไม่หนาพอ เราจะต้องปลูกกระดูกก่อน และรอ 6 เดือน ให้กระดูกเริ่มเต็ม แล้วหลังจากนั้นค่อยนัดคนไข้มาฝังรากเทียมลงไปอีกที ซึ่งกว่าคนไข้จะได้ใช้งานฟันก็ต้องรอไปเกือบปีเลย แล้วคนไข้อายุ 60 แล้ว
หมอเลยตัดสินใจเลือกฝังรากเทียมด้วยเทคนิคขยายสันกระดูก (Ridge-splitting) ให้คนไข้รายนี้
– ถึงคนไข้จะมีสันกระดูกที่แหลม แต่คนไข้มีฐานกระดูกที่กว้างพอที่จะทำเทคนิคนี้ได้
– ข้อดีคือ เราสามารถย่นเวลาการรักษาคนไข้ไปได้ 6 เดือนเลยครับ สามารถฝังรากเทียมได้ในทันทีเลย แล้วผลลัพธ์ก็มีประสิทธิภาพ
– ข้อเสียคือ คุณหมอจะต้องระวังตอนออกแรง ถ้าออกแรงมากไปกระดูกจะแตกได้ (หมอยังไม่เคยพลาดนะครับ)

Ridge-Splitting Technique วิธีการก็คือ เราจะผ่าตรงกลางสันกระดูกตามแนวฟัน แหวกกระดูกออกให้พอมีช่องฝังรากเทียม และทำการฝังรากเทียมลงไปตรงกลางตามรูปด้านบนครับ
เคสนี้หมอใช้เวลาไปทั้งหมด 1.5 ชม.
ทำการฝังแบบปกติ 1 ซี่ (ซี่ 47)
และฝังแบบ Ridge splitting 2 ซี่ ( 45, 46 )
หลังทำการปักรากเทียม




ใครสนใจทำรากเทียมสามารถแอดไลน์มาสอบถามหรือ เข้ามาปรึกษากันได้ก่อนครับ 097-947-7134
#SOLdentalclinic #SOLdentalclinicTH #รากเทียม #รากฟันเทียม #dentalimplant #หมอรากเทียม #หมออาร์มSoldental #ฟันหลอ
